Monday, August 26, 2013

Review: No Humans Involved


No Humans Involved
No Humans Involved by Kelley Armstrong

My rating: 4 of 5 stars



แม็กซ์คงต้องเริ่มด้วยคำเตือนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่โรแมนซ์ แม้ว่าจะเป็นพล็อตโรแมนซ์ต่างหากที่ทำให้แม็กซ์ติดตามอ่านเรื่องนี้ และทำให้แม็กซ์อ่านไปถอนหายใจไปกับความลงตัวของตัวละคร หลังจากรอคอยมาหลายเล่ม ในที่สุดตัวละครที่น่าสนใจที่สุดในชุด Womem of the other world (ซึ่งเปลี่ยนชื่อชุดไปแล้วเป็น Otherworld เพราะคนแต่งอยากให้ตัวละครผู้ชายเป็นคนเล่าเรื่องบ้าง --- ขอบคุณเพื่อนมากที่ให้ข้อมูล) ก็มีเรื่องราวเป็นของตัวเอง

แม็กซ์ยอมรับว่าผิดหวังนิดหน่อยที่ไม่ค่อยได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเจรามี่ เดนเวอร์ แต่สำหรับผู้ชายวัยห้าสิบกว่าที่ออกมามีบทบาทให้หนังสือมาแล้วหกเล่ม เรื่องราวของเขาก็เป็นที่รู้กันทั่วแล้วล่ะ อัลฟ่าแห่งเผ่าสโตนฮาเว่น ผู้ชายที่เงียบขรึมแต่เป็นหัวหน้าที่เด็ดขาด เขาไม่นิยมความรุนแรง แต่ไม่ลังเลที่จะใช้มันถ้าจำเป็น คนที่อุทิศตัวให้กับครอบครัวและเผ่า ดูเหมือนเจรามี่ไม่มีชีวิตส่วนตัว นอกจากกลุ่มคนที่เขาเรียกว่าครอบครัว ซึ่งประกอบไปด้วยคนที่แทบจะไม่มีสายเลือดเดียวกับเขาเลยด้วยซ้ำ

นับจากการพบกันครั้งแรกเมื่อสี่ปีก่อน (ใน Industrial Magic) เจมี่ เวกัสก็ตกหลุมรักเจรามี่เข้าอย่างจัง เธอถือว่านั่นเป็นกรรมตามสนองที่ในอดีตเธอเป็นฝ่ายปฏิเสธและหักอกผู้ชายหลายคน เพราะสำหรับเจรามี่แล้ว ความเยือกเย็น ไม่แสดงอารมณ์ของเขา ทำให้เธอคิดเสมอกว่าตนเองรู้สึกไปฝ่ายเดียว แต่แล้วคำเชิญให้เขามาพบกับเธอในช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างที่เธอถ่ายทำรายการเรียลลิตี้ที่เกี่ยวกับนักปลุกผีก็ได้รับคำตอบรับอย่างไม่คาดคิด

หนังสือเล่มนี้เล่าเหตุการณ์ผ่านสายตาของเจมี่ แต่ที่ต่างไปจากหนังสือเล่มอื่นที่ดำเนินเรื่องด้วยวิธีคล้ายคลึงกัน เคลลี่ย์ไม่ค่อยทำให้แม็กซ์รู้สึกไปว่า มุมมองของตัวละครโดนจำกัด แม้จะไม่ได้รู้สึกความคิดภายในใจของเจรามี่ (หรือตัวละครอื่น ในเล่มอื่น) แต่เรากลับรู้ว่าเขาเหล่านั้นคิดอย่างไร ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากยิ่ง

แม้จะไม่เห็นมุมมองของเจรามี่ เราก็ยังรู้ถึงความอึดอัดของเขาในการทำให้ชีวิตของการเป็นอัลฟ่ากับการเป็นผู้ชายธรรมดาสมดุลกัน เขารู้ว่าในฐานะอัลฟ่า ชีวิตของเขาไม่ได้เป็นของเขาตามลำพัง เขาต้องรับผิดชอบสมาชิกในเผ่า ต้องทำการตัดสินใจที่ยากลำบาก การที่เขาจะมีผู้หญิงสักคน เธอคนนั้นต้องยอมรับชีวิตส่วนนี้ของเขาได้ นี่ยังไม่นับถึงอันตรายที่ต้องเสี่ยง เพราะในฐานะอัลฟ่า เขาเป็นเป้าหมายใหญ่ที่หมาป่านอกลู่ทุกรายหมายหัว การได้ชื่อว่าเป็นผู้พิฆาตอัลฟ่าเป็นเกียรติยศที่น่าใฝ่ฝัน ดังนั้นตลอดเวลาเราจึงแทบไม่เคยเห็นเจรามี่อยู่หรือไปไหนตามลำพัง ข้างกายเขาจะต้องมีสมาชิกในเผ่าอยู่ด้วยเสมอ

ยกเว้นในเล่มนี้

เจรามี่ตอบรับคำเชิญของเจมี่เพื่อใช้เวลาอยู่กับเธอ เพื่อเตรียมให้เธอเข้าใจถึงภาระที่ผูกมัดเขาไว้ เพื่อชั่งใจว่าควรจะดำเนินความสัมพันธ์ของทั้งสองไปอย่างไร

แต่แฟนของเจรามี่ก็ต้องทำใจไว้นะคะ เพราะหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่การเล่าเรื่องราวของเจรามี่ แต่หากเป็นเจมี่ เวกัสต่างหากที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง

ในฐานะตัวละครที่ปรากฏกายครั้งแรกอย่างไม่น่าประทับใจ (ยกเว้นฉากที่เธอสังเกตเห็นเจรามี่ก่อนเคลย์) เจมี่กลายเป็นตัวละครอีกตัวของเคลลี่ยที่แม็กซ์ชอบ เจมี่มักเป็นตัวละครที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังยามที่ตัวละครตัวอื่นไปออกศึก ต่อสู้กับศัตรูตัวร้าย เพราะเธอเป็นนักปลุกวิญญาณที่ไม่มีพละกำลังอย่างอื่นเหนือมนุษย์เลย เธอไม่มีความแข็งแกร่งดังเช่นหมาป่า ไม่มีเวทมนตร์เหมือนแม่มดหมอผี นอกจากความสามารถในการติดต่อกับคนตายได้ เธอก็คือผู้หญิงธรรมดาคนนึงเท่านั้น

จนกระทั่งในเล่มนี้ เธอที่ค้นพบว่าพลังของเธอ คือความน่ากลัวอันสูงสุด พลังด้านมืดที่สุดที่เหล่าสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติจะมีกันได้

เพราะอะไรน่ะเหรอ

พลังของเจมี่ทำลายความเชื่อที่ว่า ทุกอย่างสิ้นสุดเมื่อความตายมาเยือน เธอสามารถปลุกคุณจากความตายเพื่อสานต่อชีวิตที่คุณไม่ต้องการ ในสภาพเน่าเสีย และอย่างที่เจมี่พูดไว้ "เมื่อคุณตาย คุณก็เป็นของฉัน" เธอมีอำนาจควบคุมสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วได้ พลังอันน่ากลัว

แม้จะมีความสามารถทางด้านวิญญาณของจริง แต่เจมี่ก็หากินด้วยการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิญญาณที่หลอกลวงผู้ชมทางหน้าจอโทรทัศน์ เธอเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้เพื่อเป็นสะพานพาเธอไปยังรายการทีวีของตนเอง แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็คือ ในบ้านที่เธอถูกจัดให้อยู่ มีวิญญาณของเด็ก ๆ ที่แม้แต่พลังของเจมี่เองก็ไม่อาจมองเห็นเด็กเหล่านั้นได้

การค้นหาความแปลกประหลาดนี้นำเธอไปสู่การค้นพบความจริงอันน่ากลัวที่ว่ามนุษย์ธรรมดาก็มีเวทมนตร์เช่นกัน เป็นเวลานานมาแล้วที่มนุษย์ถูกปิดกั้นจากโลกแห่งเวทมนตร์ แต่ในที่สุดก็มีคนกลุ่มหนึ่งเอาชนะม่านนั้นได้ ด้วยการสังเวยชีวิต

เด็กบริสุทธิ์เหล่านั้นเป็นเครื่องสังเวยเพื่อนำมนุษย์ไปสู่พลังเหนือธรรมชาติ และเป็นหน้าที่ของเจมี่ในการค้นหากลุ่มคนเหล่านั้น เพื่อปลดปล่อยวิญญาณของเด็กน้อยให้ไปสู่สุขคติ

แม็กซ์ชอบหนังสือเล่มนี้ค่ะ ชอบการเดินทางของเจมี่ไปสู่ตัวตนของคนที่แม็กซ์ชอบ ที่สำคัญคนแต่งไม่ได้เปลี่ยนเธอไปจากเจมี่ที่แม็กซ์รู้จักในเล่มอื่น เธอยังเป็นคนที่ไม่เก่งกาจในด้านพละกำลัง เป็นคนที่ถูกทิ้งให้อยู่เบื้องหลังเมื่อออกศึก ที่สำคัญเธอรู้ดีเกี่ยวกับข้อจำกัดของตัวเอง เธอไม่เป็นเหมือนนางเอกโง่หลายคนที่มักเร่ออกไปหาเรื่อง ให้พระเอกตามมาช่วยเหลือ

อยากอ่านเรื่องของเธออีกค่ะ สำหรับตอนนี้เธอเป็นคนเล่าเรื่องที่น่าสนใจอีกคนหนึ่งในชุดนี้



View all my reviews

No comments: