Friday, August 30, 2013

Review: Guardian Demon


Guardian Demon
Guardian Demon by Meljean Brook

My rating: 5 of 5 stars



หนังสือเล่มที่แปดในชุด The Guardians ของเมลจีน บรู๊ค และถือเป็นสุดท้ายปิดชุด (แม้ว่า หลังจากนี้จะมีเรื่องสั้นออกมา แต่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในระหว่างเหตุการณ์ของเล่มนี้) ซึ่งสำหรับเราแล้ว หนังสือชุดนี้ถือเป็นชุดแถวหน้าที่เราชอบมาก ๆ เป็นชุดที่เราคิดว่า คนเขียนวางโครงเรื่องได้อย่างแยบยล และการเขียนในแต่ละเล่มก็แสดงให้ด้านต่าง ๆ ของโลกในเรื่อง และตัวละครที่มีความแตกต่าง แต่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากันเลย

สำหรับคนที่อ่านเรื่องชุดนี้ ตัวละครที่ถือว่ามีความสำคัญ และอาจจะเรียกได้ว่า เป็นศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมดก็คือ ไมเคิล เขาออกมาตั้งแต่ในเรื่องสั้นเล่มแรก และเรื่องราวของเขา (หรือเราจะเรียกว่า ตัวตนของเขา) ถูกบอกเล่าผ่านหนังสือทุกเล่มในชุด กระนั้นคนแต่งไม่ได้ทำให้ไมเคิลเป็นตัวละครที่แย่งบท หรือความโดดเด่นจากพระนางในแต่ละเรื่องหรอกนะคะ เรื่องราวของเขาซึ่งน่าสนใจถูกนำเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องอย่างชาญฉลาด และผลักดันให้พล็อตเดินหน้าไป

กระนั้นเราคงต้องบอกว่า เราไม่แนะนำให้ใครเริ่มต้นอ่านหนังสือชุดนี้ที่เล่มนี้ เหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น และที่สำคัญ คุณจะสปอยล์ตัวเองในการอ่านเล่มนี้ทำไมล่ะ ค้นพบตัวตนของไมเคิลจากเล่มอื่น ๆ ก่อนหน้าดีกว่าค่ะ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลย (สำหรับเรา) ที่จะรีวิวเรื่องนี้โดยไม่สปอยล์เหตุการณ์ในเล่มก่อนหน้า

และเพราะเรามีเวลา และเราหลงใหลหนังสือชุดนี้มากมาย เราขอท้าวความย้อนกลับไปตั้งแต่จุดกำเนิด แรกเริ่มเมื่อไมเคิลมีบทบาทในเรื่อง เราเปรียบเทียบคาแร็คเตอร์ของเขากับเซ็นต์ไมเคิล คิดขนาดว่า อาจจะเป็นคนคนเดียวกันด้วยซ้ำ เมื่อเรื่องราวที่บอกเล่าเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเหล่าการ์เดี้ยน ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องมนุษย์จากปีศาจจากนรก เริ่มต้นเมื่อไมเคิล ซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่แสดงความกล้าหาญด้วยการฆ่ามังกร ที่ลูซิเฟอร์พามาเป็นลูกสมุนจากดินแดนที่เรียกว่า เคออส การที่ลูซิเฟอร์ได้มังกรเข้ามาร่วมในสงครามกับทูตสวรรค์ (ที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์) ทำให้เหล่าทูตสวรรค์เกือบพ่ายแพ้ แต่การที่มนุษย์อย่างไมเคิลเลือกข้าง และช่วยด้วยการฆ่ามังกร ทำให้สงครามระหว่างสวรรค์และนรกจบลง ไมเคิลได้รับแต่งตั้งให้เป็นการ์เดี้ยนคนแรก และเป็นผู้มีอำนาจในการเปลี่ยนมนุษย์คนอื่น ๆ ให้กลายเป็นการ์เดี้ยนด้วยเช่นกัน หากมนุษย์ผู้นั้นพิสูจน์ตัวเองด้วยการเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อคนอื่น (และตายด้วยน้ำมือของสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ)

เราไม่คิดว่า คาแร็คเตอร์ของไมเคิลน่าสนใจเท่าไหรนัก เขาดูเป็นตำนานมากเกินไป เรื่องราวของเขากล้าหาญ น่าจดจำ แต่ก็ทำให้เรารู้สึกเหมือนเขาเป็นคนที่น่าเบื่อหน่าย ชายผู้เลือกความถูกต้องทุกครั้ง เรามักจะชอบคาแร็คเตอร์ที่อยู่ในโลกสีเทามากกว่า

แต่ในระหว่างหนังสือเล่มแรกที่ไมเคิลปรากฎตัวขึ้น จนมาถึงเล่มนี้ซึ่งเล่าเรื่องราวของเขา เมลจีน บรู๊ควิวัฒนาการตัวตนของไมเคิล เราอาจจะใช้คำไม่ถูกนะคะ เพราะตัวตนของไมเคิลไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยจากเล่มแรก เพียงแต่สายตาของคนอ่านที่มองตัวตนของเขาเปลี่ยนแปลงไปมากมายจากเล่มแรก

อย่างช้า ๆ เขาไม่ใช่ชายผู้สมบูรณ์แบบทุกอย่างอีกต่อไป ไมเคิลมีด้านมืด ความจริงเกี่ยวกับตัวเขาค่อย ๆ เปิดเผยออก เขาไม่ใช่มนุษย์ด้วยซ้ำ กลับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยลูซิเฟอร์เพื่อครอบครองโลก เพียงแต่แผนผิดพลาด และบัดนี้ไมเคิลเป็นคนเพียงคนเดียวที่จะหยุดยั้งลูซิเฟอร์ได้

จากตอนจบในเรื่อง Demon Marked ในที่สุดไมเคิลก็ถูกปลดปล่อยออกจาก Frozen Field ซึ่งเป็นดินแดนที่ใช้ลงโทษวิญญาณที่ผิดคำพูดที่ให้ไว้กับปีศาจ ไมเคิลเสียสละตัวเองเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับ Frozen Field เพื่อหยุดยั้งลูซิเฟอร์จากการเปิดประตูสู่โลกโดยผ่านทางดินแดนเคออส (ถ้าอ่านแล้วงง ก็แสดงว่าไม่ได้อ่านเล่มก่อนหน้าในชุด ดังนั้นอย่างซีเรียสค่ะ เราแนะนำให้กลับไปอ่านก่อนนะคะ) แต่เมื่อถูกปล่อยออกมา วิญญาณของไมเคิลเหลือแต่แก่น ความรู้ผิดชอบชั่วดีได้หายไปหมดแล้ว และนี่ก็คือตัวตนของไมเคิลที่แอนโดรมีดรา เทย์เลอร์ได้เผชิญหน้า

แอนดี้ เทย์เลอร์ อดีตนายตำรวจสาวที่เข้าไปพัวพันกับเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างช่วยไม่ได้ กลายเป็นการ์เดี้ยนเพราะเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องคู่หูจากความตาย และเธอคือคนที่ต่อเชื่อมทางจิตกับไมเคิลตลอดเวลาที่เขาถูกขังไว้ที่ Frozen Field ดังนั้นเธอจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะพาไมเคิลกลับสู่เหล่าการ์เดี้ยน หากแต่การเผชิญหน้ากันในนรก เมื่อเทย์เลอร์ได้เห็นตัวตนแท้จริงของไมเคิล มันทำลายทุกอย่างที่เธออาจจะรู้สึกต่อเขา และสร้างคำถามต่อความเชื่อที่เธอมี

เราชอบประเด็นนี้ในเรื่องมาก ๆ เพราะเราเริ่มต้นเรื่องด้วยการคิดว่า ไมเคิล "ดี" เกินไป แต่ในเล่มนี้ได้ท้าทายความคิดของเรา เขาไม่ได้เริ่มต้นด้วยการเป็นคนที่เขาเป็นในปัจจุบัน ทุกสิ่งย่อมมีวิวัฒนาการ และเราใช้คำนี้กับไมเคิล (แต่วิวัฒนาการของไมเคิลมันเกิดขึ้นและทำให้เขากลายเป็นคนอย่างที่เขาก่อนหน้าที่จะเริ่มต้นเล่มแรกในชุด) เขาถูกสร้างขึ้นมาโดยปีศาจ แก่นของเขาผูกพันกับดินแดนแห่งเคออส (เพราะพ่อของเขากินเนื้อมังกรเพื่อให้สามารถมีลูกกับมนุษย์ได้) ดังนั้นในส่วนลึกที่สุดไมเคิลไม่ใช่ "ความดี" หากแต่เป็นความกระหาย บ้าคลั่ง แต่เพราะความเข้มแข็งของเขา การสั่งสอนจากครอบครัว (ก่อนที่พ่อของเขาจะคืนสู่ตัวตนแท้จริง นั่นคือปีศาจ) และเทวทูตที่รอบกาย ไมเคิลเรียนรู้ และสร้างกรอบศีลธรรมให้กับตัวเอง เราพบว่า ตัวเองทึ่งกับแนวคิดนี้มาก ๆ บางสิ่งที่เริ่มต้นจาก "ความชั่วร้าย" กลายเป็นคนเพียงคนเดียวที่ปกป้องมนุษยชาติจากความชั่วร้ายที่แท้จริงได้

ในแง่ของคาแร็คเตอร์ แม้เราจะพบว่า ตัวเองเห็นว่า ไมเคิลมีความน่าสนใจมากขึ้น เราไม่ได้เกิดอาการคลั่งไคล้เขาเหมือนกับที่เราเป็นกับคาแร็คเตอร์บางตัวในชุดนี้ (คอลิน, เจค, และโรซาเลีย) อาจจะเพราะตัวตนของไมเคิลยิ่งใหญ่มากเสียจนเราอยู่ในอาการทึ่ง แบบเดียวกับที่เหล่าการ์เดี้ยนคนอื่น ๆ รู้สึก ในเรื่องคนแต่งบอกเล่าชีวิตของไมเคิลไม่ได้โดยละเอียด แต่มากพอทำให้เราเข้าใจเขา ไมเคิลกลายมาเป็นคนแบบที่เขาเป็นเพราะการเรียนรู้ บทเรียนจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คนที่เขาเป็นเมื่อสองพันปีก่อน ไม่ใช่ตัวตนของเขาในปัจจุบัน

และนั่นนำไปสู่ปัญหาใหญ่ของเขา เพื่อช่วยให้วิญญาณไมเคิลกลับร่าง คาวีห์หนึ่งในเพื่อนสนิทที่สุดของเขา คนที่คิดว่า รู้จัก "ธรรมชาติ" ของไมเคิลดีที่สุด ใช้วิธีการที่เธอเชื่อว่า จะประสบความสำเร็จ แต่ไมเคิลคนที่คาวีห์รู้จักคือเมื่อสองพันปีก่อน ไมเคิลคนนั้นจะทำทุกอย่างเพื่อกำจัดจุดอ่อนของตัวเอง จะไม่ดึงรั้งอะไรเอาไว้มากเกินความจำเป็น แต่ไมเคิลในปัจจุบันไม่ใช่ชายคนนั้นอีกต่อไป ดังนั้นการที่คาวีห์แยกจิตวิญญาณของไมเคิลออกจากเทย์เลอร์ จึงกลายเป็นคำสั่งประหารอย่างช้า ๆ จิตของไมเคิลที่ผูกพันกับเทย์เลอร์มากขนาดไม่อยากจากเธอไป ไม่ยอมรับร่างกาย และไมเคิลชายคนที่ไม่อาจถูกทำลายลงได้ กำลังจะตาย

เวลาเริ่มนับถอยหลัง ไม่เฉพาะสำหรับไมเคิล แต่เป็นโลกมนุษย์ของเราด้วย เพราะหลังจากพนัน ลูซิเฟอร์ล่าถอยกลับไปยังนรก สัญญาที่ทำคือลูซิเฟอร์จะไม่เปิดประตูนรกที่ต่อเชื่อมกับโลกมนุษย์ แต่สัญญาไม่ได้ครอบคลุมไปถึงการที่ลูซิเฟอร์จะบุกโลกมนูษย์ผ่านทางดินแดนเคออส และลูซิเฟอร์กำลังมา เหล่าการ์เดียนรู้ดี และพยายามทำทุกอย่างเพื่อยับยั้ง

เล่มนี้จึงเป็นจุดจบ เป็นตอนจบที่แท้จริง การเผชิญหน้าระหว่างความดี และความเลว การเสียสละ ความรัก ที่มากไปกว่านั้น พล็อตการสืบสวน การแกะเบาะแสแผนการของลูซิเฟอร์ เล่มนี้มีครบทุกอย่าง

เราไม่ได้ชอบเล่มนี้เฉพาะแค่ตัวของมันเอง ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของชุด เล่มนี้มีคุณค่าเพิ่มทวีคูณ เล่มนี้แสดงให้เห็นว่า คนแต่งได้วางแผนมาอย่างรัดกุมแค่ไหนในการสร้างตัวละคร และพล็อตเรื่องในแต่ละเล่มก่อนหน้า ทุกอย่างนำพาเมื่อเพื่อจุดจุดนี้

ตัวละครในเล่มก่อนหน้าออกมามีบทบาทกันอย่างพร้อมหน้า แต่ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่เราคิดว่า พวกเขามาเดินผ่านฉากเพื่อให้คนอ่านหายคิดถึง ทุกคนมีบทบาท และเป็นบทบาทที่พวกเขาเป็นในเล่มของตัวเอง การที่คอลินสามารถมองเห็นดินแดนเคออสผ่านกระจกได้ การที่ชาร์ลีและดริฟเตอร์สามารถปลดล็อคได้ทุกชนิด หรือแม้กระทั่งมุขตลกของการที่เจคเทเลพอร์ตไปหาไมเคิลหรือเทย์เลอร์ในยามที่ไม่เหมาะสมสักนิดเดียว ทุกอย่างเตือนให้เรานึกถึงคาแร็คเตอร์เหล่านี้ในเล่มของพวกเขา แต่ก็ไม่มากจนเกินหน้าเกินตาประเด็นหลักในเรื่อง

ก่อนหน้าที่จะเริ่มอ่าน เราตั้งคำถามความเหมาะสมของแอนดี้ เทย์เลอร์ในฐานะนางเอกของไมเคิล เราจำได้ว่า เมลจีน บรู๊คบอกว่า เธอรู้มาตั้งแต่ต้นว่า แอนดี้จะเป็นนางเอกของไมเคิล แต่บอกตามตรงนะคะ ในฐานะของแฟนที่ติดตามชุดนี้มาตลอด เราไม่รู้สึกว่า มันชัดเจนขนาดนั้น เรารู้สึกว่า มีอะไรบางอย่างระหว่างทั้งสอง แต่เมลจีนก็ไม่ได้เขียนให้ดูชัดขนาดนั้น แล้วเราก็ยังมีคำถามคาใจที่ว่า มีอะไรในตัวเทย์เลอร์ที่ดีพอที่จะคู่ควรกับไมเคิล ซึ่งเป็นตัวละครที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ ได้ เธอเป็นแค่อดีตตำรวจที่กลายเป็นการ์เดี้ยน ถือว่าเป็นเด็กใหม่ในกลุ่ม และในหนังสือชุดที่คาแร็คเตอร์นางเอกแต่ละคนล้วนแต่น่าจดจำ (ลิลิธิ, ไอรีนา ,หรือคนที่เราชอบที่สุดโรซาเลีย) เทย์เลอร์จะเทียบกับพวกเธอได้ไหม

การอ่านเล่มนี้ทำให้เราได้รู้จักเธอมากขึ้น กระนั้นคำตอบของเราก็คงต้องยอมรับว่า เทย์เลอร์ไม่ใช่นางเอกที่อยู่ในดวงใจของเขาในชุด แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะเรายอมรับความเหมาะสมของเธอกับไมเคิลได้ เราพบว่า เมื่ออ่านเรื่องนี้จบ เราไม่คิดว่าจะมีใครคู่ควรกับไมเคิลเท่ากับแอนโดรมีดรา เทย์เลอร์ ฉากที่ไมเคิลบรรยายความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ เขาพูดถึงคุณลักษณะมากมายของเทย์เลอร์ คุณลักษณะที่ไม่ได้ทำให้เธอเป็นคนพิเศษเหนือผู้หญิงคนอื่น มันเป็นคุณลักษณะที่ไมเคิลเคยเจอมาก่อน สำหรับชายที่อยู่มายาวนานหลายพันปี เขาเจอทุกอย่างมาหมดแล้ว แต่การลงท้ายที่ว่า เขาไม่เคยเจอใครที่มีคุณลักษณะทั้งหมดนั่นในคนคนเดียว คือคำตอบที่ว่า ทำไมผู้หญิงคนนี้จึงเป็นทุกอย่างสำหรับเขา

เราชอบตอนจบมาก ๆ เมื่อเทวทูตไมเคิลปรากฎตัว กระทั่งการเลือกทูตสวรรค์ที่ลงมาพบก็มีความสำคัญ ตามคัมภีร์ เซ็นต์ไมเคิลคือคนที่ฆ่าลูซิเฟอร์ และไมเคิลของเราก็ถูกตั้งชื่อตามเขา ดังนั้นการที่เป็นคนที่เป็นคนลงมาพบไมเคิลและแอนดี้จึงลงตัวมาก ๆ ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่า นั่นเป็นสิ่งที่เมลจีน บรู๊คตั้งใจ ฉากที่ไมเคิลตัดคอลูซิเฟอร เราอ่านในนึกถึงภาพ St. Michael the Archangel ที่วาดโดยกุยโด เรนี (ซึ่งอยู่ที่ Our Lady of the Conception of the Capuchins) แบบชัดเจนมาก

ยอมรับนะคะว่า ตอนจบเรื่องชุดนี้ดีแบบเกินจะเป็นไปได้ แต่เราขอเลือกตอนจบแบบนี้ค่ะ ที่สำคัญการเขียนเล่าเรื่องของเมลจีน ก็ทำให้เราเชื่อว่า เหล่าการ์เดี้ยนสามารถเอาชนะลูซิเฟอร์ได้โดยไม่สูญเสียใครไปเลยสักคนเดียว แผนการถูกเหล่าให้คนอ่านเข้าใจ และมันเป็นแผนการที่ฉลาดมาก ๆ (ทำให้เรานึกถึงการที่โรซาเลียจัดการกับเนฟิลิมในเรื่อง Demon Blood) แผนการดีพอที่จะทำให้บทสรุปเช่นนี้เป็นไปได้

นอกจากนี้คนแต่งยังตอบคำถามที่ทิ้งท้ายเอาไว้ในชุดจนหมด (เรานึกไม่ออกว่า มีประเด็นอะไรเหลือไว้อีก) กระทั่งเรื่องเล็กน้อย (แต่ใหญ่สำหรับเรา) เกี่ยวกับการที่ฮิวจ์กลายเป็นมนุษย์ก่อนลิลิธหลายสิบปี และเมื่อทั้งคู่กลายมาเป็นมนุษย์ก็มีโอกาสที่ฮิวจ์จะตายก่อนเธอ ในเรื่องมีฉากที่ลิลิธแสดงความอ่อนไหวในประเด็นนี้เอาไว้ (และทำให้เราดีใจมากที่เราไม่ใช่คนเดียวที่คิดถึงประเด็นนี้)

ปีนี้เราโชคดีนะคะ ได้อ่านหนังสือที่ถือว่าเป็น End Game ของหนังสือชุดที่เราชอบมาก ๆ สองเล่ม แม้ว่า Heart of Obsidian จะไม่ใช่เล่มสุดท้ายในชุด แต่ก็ถือว่าปิดประเด็นสำคัญมาก ๆ ที่เปิดเอาไว้ และก็มาถึงเล่มนี้ ส่วนหนึ่งเราดีใจนะคะที่จบชุด เพราะทุกอย่างลงตัวได้ดีมาก แต่ก็ใจหายเพราะนี่คือหนังสือชุดที่ดีที่สุดชุดนึงที่เราติดตามอ่านมาตลอดเจ็ดปี เราอยากให้เมลจีนเขียนต่อนะคะ อาจจะไม่ใช่ในภาพรวมพล็อตใหญ่ที่การ์เดี้ยนต้องต่อสู้กับลูซิเฟอร์ แต่เป็นเรื่องราวของพวกเขาหลังจากนั้น

การให้คะแนนวางอยู่บนพื้นฐานของเรื่องทั้งชุดค่ะ ในฐานะเล่มจบ เล่มนี้ตอบโจทย์ทุกอย่างที่เราอยากได้ ในฐานะเล่มเดี่ยว ๆ เล่มนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุดในชุดสำหรับเรา แต่มันคือองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของหนังสือชุดนี้





View all my reviews

No comments: