Monday, August 26, 2013

Review: Frostbitten


Frostbitten
Frostbitten by Kelley Armstrong

My rating: 5 of 5 stars



Frostbitten ของเคลลี่ย์ อาร์มสตรองค์

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สิบในชุด Otherworld (แต่เป็นเล่มที่สิบเอ็ดที่ถูกพิมพ์ขาย นั่นเพราะอีกเล่มนึงเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นค่ะ) ที่เล่าเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ ผ่านมุมมองของตัวละครหลายคนในโลกที่เคลลี่ย์ อาร์มสตรองค์สร้างขึ้น

และหนึ่งในตัวละครที่มีมุมมองที่น่าสนใจ และน่าติดตามอ่านมากที่สุดก็คือ เอเลน่า ไมเคิลส์ มนุษย์หมาป่าผู้หญิงคนเดียวในโลก นี่เป็นหนังสือเล่มที่สี่ที่เธอกลับมาเล่าให้คนอ่านฟัง (ที่เริ่มต้นจาก Bitten, Stolen, และ Broken)

แม็กซ์เคยบอกหลายครั้งเวลาที่เขียนรีวิวหนังสือในชุดนี้ค่ะว่า มันค่อนข้างยากที่จะทำความเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น หากคนอ่านไม่รู้จักภูมิหลังของตัวละครในเล่มก่อนหน้ามาก่อน ดังนั้นเราคงต้องบอกตามตรงว่า แม็กซ์ไม่แน่ใจว่า สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านเล่มก่อนหน้า (เล่มที่เอเลน่าเป็นคนเล่าเรื่อง) จะเข้าใจตัวละครได้ดีแค่ไหน เราเชื่อว่าคุณน่าจะอ่านได้รู้เรื่องค่ะ แต่อาจจะไม่ได้รักตัวละครมากอย่างที่แม็กซ์เป็น เพราะคุณไม่เข้าใจความซับซ้อนของพวกเขา

ดังนั้นก็ขอเตือนว่า สำหรับคนที่คิดจะอ่านชุดนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่เอเลน่า และเคลย์เป็นตัวเอก ก็โปรดสต๊อปหยุดอ่านนะคะ เพราะแม็กซ์เชื่อว่า ในรีวิวของเราจะต้องมีสปอยล์แน่ ๆ เลย

หนังสือเรื่องนี้ไม่ใช่โรแมนซ์ แม็กซ์เชื่อว่า คงจะมีคนที่เขียนรีวิวที่ถ่ายทอดเรื่องราวในเล่มนี้ได้ดีกว่าเรา เพราะแม็กซ์บอกเลยค่ะว่า อ่านหนังสือเล่มนี้เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเคลย์ และเอเลน่าเป็นหลัก ซึ่งเราไม่ผิดหวัง เพราะเราได้เห็นพัฒนาการที่เกิดขึ้น

เอเลน่า และเคลย์ได้รับคำสั่งจากเจเรมี่ซึ่งเป็นหัวหน้าเผ่าหมาป่าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือให้เดินทางไปอลาสก้าเพื่อทำภารกิจสองอย่าง งานแรกก็คืองานที่เอเลน่าทำค้างเอาไว้ นั่นก็คือ ตามหาตัวหมาป่าที่เพิ่งอพยพเข้ามาในอเมริกานามรีส ผู้ซึ่งตกเป็นแพะถูกใส่ความจากหมาป่าอื่นว่าเป็นผู้ร้ายฆ่าคน หน้าที่ของเอเลน่าก็คือหาตัวรีสให้เจอ จากนั้นเตือนเขาถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึง แต่รีสซึ่งไม่ไว้ใจหมาป่าที่อยู่เป็นกลุ่ม (หมาป่าที่ไม่มีฝูงอยู่จะถือเป็นหมาป่านอกรีต และกลายเป็นแฟร์เกมส์ที่ใครจะทำอะไรก็ได้) ทำให้เขาหนีเธอไปไกลถึงอลาสก้า

ซึ่งในขณะเดียวกันเจเรมี่ซึ่งติดต่อกับเพื่อนซึ่งเคยเป็นอดีตเพื่อนร่วมฝูงด้วยกันอย่างพ่อลูกตระกูลสติลเวลล์ ไม่ได้รับข่าวสารจากเดนนิสผู้พ่อเป็นเวลานาน เขาจึงตัดสินใจอนุญาตให้เอเลน่าและเคลย์เดินทางไปอลาสก้าเพื่อสืบหาความจริงที่เกิดขึ้น

แต่งานที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายกลับซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อปรากฎว่า อลาสก้ากลายเป็นที่หลบซ่อนของหมาป่าไร้ฝูงกลุ่มใหญ่ กลุ่มที่ทั้งเอเลน่า และเคลย์ไม่เคยรับรู้มาก่อน เหล่าหมาป่านอกรีตที่คิดจะลองดีกับเผ่าหมาป่าแห่งอเมริกาเหนือ และคิดที่จะเอาเอเลน่าเป็นเครื่องมือ ในฐานะที่เธอเป็นหมาป่าหญิงคนเดียวในโลก

เป็นเวลายี่สิบปีแล้วที่เอเลน่า ไมเคิลส์กลายเป็นหมาป่าผู้หญิงคนเดียวในโลก และในโลกแห่งนี้ มันไม่ใช่ชีวิตที่ง่าย เธอคือสมบัติล้ำค่าที่สุด สมบัติที่หมาป่าทุกตัวหมายที่จะครอบครอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเอเลน่าจะกลายเป็นของรางวัลสำหรับผู้ชนะ แม้ว่าในความจริงแล้ว คู่ของเธอคือหมาป่าที่เป็นตำนานแห่งโลกที่เต็มไปด้วยความตำนาน

เรื่องราวของเอเลน่า และเคลย์ เดนเวอร์อาจจะเริ่มต้นเหมือนเทพนิยาย (สปอยล์) เขาพบกับเธอขณะที่เขาได้รับเชิญไปสอนหนังสือในมหาวิทยาลับแห่งโตรอนโต้ เอเลน่าเป็นเด็กสาวกำพร้าวัยยี่สิบปีที่เข้าเรียนในวิชาที่เขาสอน ความสัมพันธ์เริ่มก่อตัวขึ้น และมันก็จบลงอย่างที่เธอไม่เคยคาดคิด เคลย์กัดเธอ และทำให้เอเลน่ากลายเป็นหมาป่า ทำให้ในท้ายที่สุด มันกลายเป็นบาปที่เธอไม่อาจให้อภัยเขาได้

และแม้เวลาจะผ่านมายี่สิบปีนับจากนั้น แม้เอเลน่าจะยอมรับกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับกับตัวเองว่า เคลย์เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวของเธอ แต่กระนั้นส่วนหนึ่งในใจของเอเลน่าก็ยังต่อต้าน เธอจะมีความสุขกับผู้ชายที่เปลี่ยนชีวิตของเธอทั้งชีวิตได้อย่างไร เคลย์ไม่เคยถาม เขาลงมือทำมันเลย แต่ตอนนั้นในยามที่ชีวิตคู่ของเธอและเขามาถึงจุดที่สมบูรณ์ที่สุด พวกเขายอมรับความผูกพันกัน และมีลูกแฝดน่ารักสองคน แต่มันก็ยากสำหรับเอเลน่าที่จะยอมรับความสุขทั้งหมดที่เกิดขึ้น

ถ้าหาก Bitten คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ครั้งใหม่ (หลังจากที่เอเลน่าถูกกัด) ระหว่างเอเลน่า และเคลย์ Stolen คือจุดที่เอเลน่ายอมรับความเป็นไปได้ของความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และ Broken คือการยอมรับในความสัมพันธ์ที่เกิด

Frostbitten ก็คือเล่มที่ทำให้ความสัมพันธ์นั้นสมบูรณ์

ในเล่มนี้อาจจะเป็นครั้งแรกที่คนอ่านได้เห็นเอเลน่ายอมรับตัวตนที่เธอเป็น พฤติกรรมต่อต้านหลายอย่างที่อาจจะขัดใจคนอ่านที่มีในเล่มก่อน ๆ ลดน้อยลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเติบโตในคาแร็คเตอร์ของเธอเองด้วย และนั่นรวมทั้งเวลาที่ผ่านไปในเรื่อง

แม็กซ์จำได้ว่า เคลลี่ย์เคยพูดเอาไว้นะคะ ตอนที่หลายคนเรียกร้องให้เธอเขียนเรื่องผ่านมุมมองของเอเลน่าอีกครั้ง หลังจากที่เธอเขียนเรื่องผ่านมุมมองของตัวละครอื่นเสียหลายเล่ม เคลลี่ย์ปฏิเสธ และบอกว่า เธอต้องการเวลาเพื่อให้เอเลน่าพร้อมที่จะเล่าเรื่อง และหลังจากหลายปี เอเลน่ากลับมาเล่าอีกครั้ง และแม็กซ์พบว่า มันคุ้มค่ากับการรอคอย และเห็นด้วยกับการตัดสินใจของคนแต่ง เพราะเราคิดว่า หากให้เธอกลับมาเร็วกว่านี้ เรื่องราวก็คงจะไม่ได้มาถึงจุดนี้ และหากเอเลน่าปรากฎตัวอีกครั้งโดยไม่มีพัฒนาการใด ๆ ทั้งสิ้น มันคงจะเป็นเรื่องน่าเสียดาย และรังแต่ทำให้เธอกลายเป็นตัวละครที่น่ารำคาญอีกตัวนึง

การทิ้งเวลา ปล่อยให้ความสัมพันธ์ของเธอและเคลย์มาถึงจุดที่ลงตัว เป็นการตัดสินใจที่ฉลาด และในขณะเดียวกันก็ไม่เป็นการเร่งรัดคนอ่านให้เชื่อไปกับความสัมพันธ์ที่ต้องอาศัยเวลาเพื่อการให้อภัย

คะแนนที่ 85



View all my reviews

No comments: